ABOUT คราฟเบียร์ เชียงราย

About คราฟเบียร์ เชียงราย

About คราฟเบียร์ เชียงราย

Blog Article

คราฟเบียร์ (craft beer) คือการสร้างเบียร์สดโดยโฮมเมดรายเล็กที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ผู้ผลิตจะต้องใช้ฝีมือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับในการแต่งรสเบียร์ให้มีความมากมายของรสชาติ รวมทั้งที่สำคัญจำต้องแต่งกลิ่นตามธรรมชาติ ห้ามใช้สารเคมีมาแต่งกลิ่นเด็ดขาด

เบียร์คราฟแตกต่างจากเบียร์สดเยอรมันที่พวกเรารู้จักดี

ในประเทศเยอรมนีมีกฎหมายฉบับหนึ่งกล่าวว่า เบียร์ที่ผลิตในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีควรต้องใช้ส่วนประกอบหลัก 4 อย่างเท่านั้นคือ “มอลต์ ฮอปส์ ยีสต์ รวมทั้งน้ำ”

กฎหมายฉบับนั้นคือ ‘Reinheitsgebot’ (German Beer Purity Law) หรือกฎหมายที่ความบริสุทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการสร้างเบียร์สดไปสู่ยุคสมัยใหม่ กฎหมายนี้เริ่มขึ้นในแคว้นบาวาเรีย เมื่อ ค.ศ. 1516 โดยได้ตั้งค่ามาตรฐานว่า เบียร์ที่ถูกผลิตขึ้นในเยอรมนีควรต้องทำจาก น้ำ ข้าวบาร์เลย์ที่พึ่งผลิออกหรือมอลต์ และก็ดอกฮอปส์ เท่านั้น กฎหมายฉบับนี้ในอดีตก็เลยถูกเรียกว่า 1516 Bavarian Law ส่วนยีสต์เกิดขึ้นหลังจากการค้นพบวิธีพาสพบร์ไรซ์ กฎนี้ยังตกทอดมาสู่การสร้างเบียร์สดในเยอรมันเกือบทุกบริษัท

โดยเหตุนี้ เราก็เลยไม่เห็นเบียร์สดที่ทำจากข้าวสาลี หรือเบียร์รสสตรอคอยว์เบอร์รี ในเยอรมนี เพราะไม่ใช่มอลต์

ในระหว่างที่เบียร์คราฟ สามารถสร้างสรรค์ แต่งกลิ่นจากอุปกรณ์ตามธรรมชาติได้อย่างเต็มเปี่ยมไม่มีข้อจำกัด

สหายคนนี้กล่าวว่ากล่าว “บ้านเรามีความมากมายหลายของผลไม้ ดอกไม้เยอะมาก เวลานี้พวกเราจึงมองเห็นเบียร์สดหลายประเภทที่วางขายมีกลิ่นอ่อนๆของบ๊วย ส้ม มะม่วง มะพร้าว ฯลฯ”

เมื่อเร็วๆนี้ ที่เมืองแอชวิล ในเมืองนอร์ทแคโรไลนา อเมริกา Gary Sernack นักปรุงเบียร์สด ได้ประดิษฐ์เบียร์สด IPA ที่ได้แรงดลใจจาก ‘แกงเขียวหวาน’ ของคนไทย โดยแต่งกลิ่นจากส่วนประกอบของแกงเขียวหวานเป็นใบมะกรูด ตะไคร้ มะพร้าวเผา ขิง ข่า แล้วก็ใบโหระพา กระทั่งกลายเป็นข่าวดังไปทั้งโลก

IPA เป็นชนิดของเบียร์ประเภทหนึ่ง มีดีกรีแอลกฮอล์สูงขึ้นยิ่งกว่าเบียร์สดปกติ IPA หรือ India Pale Ale เป็นผลมาจากเบียร์สด Pale Ale ยอดนิยมมากในยุคอังกฤษล่าอาณานิคมรวมทั้งเริ่มส่งเบียร์สดไปขายในอินเดีย แต่เพราะช่วงเวลาการเดินทางบนเรือนานเกินไป เบียร์สดก็เลยบูดเน่า จะต้องเททิ้ง ผู้สร้างจึงขจัดปัญหาด้วยการใส่ฮอปส์รวมทั้งยีสต์มากขึ้นเรื่อยๆเพื่อต่ออายุของเบียร์สด ทำให้เบียร์มีแอลกอฮอล์สูงขึ้น กลิ่นฮอปส์มีความสะดุดตา และก็เบียร์สดก็มีสีทองแดงสวยสดงดงาม จนกลายเป็นว่าได้รับความนิยมมาก

และก็ในบรรดาเบียร์คราฟ การสร้างประเภท IPA ก็ได้รับความชื่นชอบสูงที่สุด

ในห้องอาหารเล็กๆของอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีเบียร์สด IPA เขตแดนแบรนด์หนึ่งเป็นที่นิยมสูงมาก ผลิตออกมาเท่าใดก็ขายไม่เคยพอ แม้ว่าจะราคาแพงก็ตาม ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเบียร์ตัวนี้แรงขนาด 8 ดีกรี แต่โชคร้ายที่จำต้องไปบรรจุกระป๋องถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก่อนจะเอามาขายในประเทศ กระป๋องละ 300 กว่าบาทสโมเบียร์ เชียงราย

ขณะนี้อำเภอเชียงดาวก็เลยเริ่มเป็นแหล่งพบปะคนรุ่นใหม่ ผู้ชื่นชมยินดีการผลิตสรรค์คราฟเบียร์

“ไม่แน่ในอนาคต อาจมีเบียร์สดกลิ่นกุหลาบจากเชียงดาวก็ได้”

เพื่อนผมกล่าวด้วยความปรารถนา โดยในเวลาเดียวกัน เขาก็กำลังทดลองทำเบียร์กลิ่นมะม่วง ซึ่งถ้าเกิดทำสำเร็จ คงไปหาทางไปผลิตแถวประเทศเวียดนาม และก็หลังจากนั้นจึงค่อยส่งมาขายในประเทศไทย

กฎหมายของบ้านเราในตอนนี้กีดกันผู้ผลิตรายเล็กอย่างสิ้นเชิง

ปัจจุบันนี้คนไหนอยากผลิตคราฟเบียร์ให้ถูกกฎหมาย ต้องไปขอใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิต แม้กระนั้นมีเงื่อนไขว่า

1) มีทุนเพื่อการจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

2) ถ้าเกิดผลิตเพื่อขายในสถานที่ผลิต เช่นโรงเบียร์เยอรมันพระอาทิตย์แดง ควรมีปริมาณการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตรต่อปี

3) ถ้าเกิดจะบรรจุขวดหรือกระป๋อง ผลิตเพื่อขายนอกสถานที่ ราวกับเบียร์สดรายใหญ่ จึงควรผลิตปริมาณไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี หรือเปล่าต่ำลงมากยิ่งกว่า 33 ล้านขวดต่อปี เป็นข้อแม้ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุราปี 2560

กฎหมายพวกนี้ทำให้ผู้ผลิตเบียร์สดรายเล็กเป็นไปไม่ได้แจ้งกำเนิดในประเทศแน่นอน

2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สภานิติบัญญัติ พิธา ลิ้มก้าวหน้ารัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวหน้า อภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติภาษีอากร ฉบับที่.. พ.ศ… เพื่อขอปรับแก้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 153 ซึ่ง เท่าโลก ลิ้มช่างวาดภาพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ เพื่อปลดล็อกให้ราษฎรสามารถผลิตเหล้าประจำถิ่น สุราชุมชน และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อื่นๆได้ โดยเปรียบเทียบด้วยการชูค่าตลาดเหล้าในประเทศไทยเทียบกับประเทศญี่ปุ่น

“ผมสนับสนุนข้อบังคับฉบับนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆไทยกับประเทศญี่ปุ่นมีตลาดค่าเหล้าเท่ากัน 2 แสนล้านกับ 2 แสนล้าน ทั้งประเทศไทยเหล้ามี 10 ยี่ห้อ ญี่ปุ่นมี 5 หมื่นแบรนด์ ขนาดเท่ากัน ประเทศหนึ่งตะกระกินกันแค่ 10 คน อีกประเทศหนึ่งกระจัดกระจาย กินกัน 5 หมื่นคน ถ้าเพื่อนฝูงสมาชิกหรือประชาชนฟังอยู่แล้วไม่เคยรู้สึกตงิดกับจำนวนนี้ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว”

“ตลาด 2 ประเทศ 2 แสนล้าน ใหญ่อย่างมากมายเสมอกัน ประเทศหนึ่งมี 10 แบรนด์ อีกประเทศหนึ่งมี 5 หมื่นแบรนด์ ประเทศที่มี 5 หมื่นแบรนด์นั้นส่งออก 93% ข้อสรุปมันพูดปดกันมิได้ สถิติพูดเท็จกันไม่ได้ เขาทำเพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรของเขา นี่เป็นตลกโปกฮาร้ายของเมืองไทย”

แต่ว่าน่าเสียดายที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ส.ส.ได้มีมติให้รัฐบาลเก็บไปดองเค็ม เป็นให้คณะรัฐมนตรีนำไปศึกษาต่อด้านใน 60 วัน

ตอนนี้ ในประเทศเยอรมนีมีบริษัทผู้ผลิตเบียร์ประมาณ 1,300 ที่ อเมริกา 1,400 ที่ ประเทศเบลเยี่ยม 200 แห่ง ตอนที่เมืองไทยมีเพียงแค่ 2 ตระกูลแทบผูกขาดการสร้างเบียร์ในประเทศ

ลองนึกดู แม้มีการปลดล็อก พระราชบัญญัติ สุราแล้ว ไม่ใช่แค่ผู้สร้างเบียร์สดอิสระหรือคราฟเบียร์ที่กำลังจะได้ประโยชน์ แต่ว่าบรรดาเกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้ ดอกไม้ ผลิตผลทางการเกษตรนานาชนิดทั้งประเทศ สามารถสร้างรายได้จากการเปลี่ยนแปลงรูปสินค้าเกษตร เป็นการเกื้อหนุนเศรษฐกิจในแต่ละแคว้น แล้วก็ยังสามารถยั่วยวนใจนักเดินทางมาเยี่ยมชมรวมทั้งกินเหล้า-เบียร์สดเขตแดนได้ ไม่ต่างจากบรรดาสุรา เหล้าองุ่น สาเก เบียร์สดพื้นถิ่นชื่อดังในต่างจังหวัดของประเทศฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี อื่นๆอีกมากมาย

การพังทลายการผูกขาดสุรา-เบียร์ เป็นการพังทลายความแตกต่าง แล้วก็เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันเสรีอย่างทัดเทียมกัน

คนไหนกันมีฝีมือ คนไหนกันแน่มีความคิดประดิษฐ์ ก็สามารถมีโอกาสเกิดในสนามนี้ได้ โดยใช้ทุนไม่มากเท่าไรนัก

รัฐบาลบอกว่าส่งเสริมรายย่อยหรือ SMEs แต่ว่าอีกด้านหนึ่งก็ไม่ให้โอกาส โดยใช้กฎหมายเป็นอุปกรณ์สำคัญ

แต่ว่าในประเทศไทยที่กรุ๊ปทุนผูกขาดมีความสนิทสนมกับรัฐบาลดูเหมือนจะทุกช่วง จังหวะที่ พระราชบัญญัติปลดล็อกเหล้าฉบับนี้จะคลอดออกมา ไม่ง่ายเลย ด้วยผลตอบแทนอันมากมาย ช่วงเวลาที่นับวันการเจริญเติบโตของคราฟเบียร์ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด

จากรายงานของ The Global Craft Beer Market พบว่าตั้งแต่ ค.ศ. 2005 เบียร์สดในประเทศสหรัฐฯ ถือเป็นอุตสาหกรรมด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่โตเร็วที่สุดเกือบจะ 300% โดยมีผู้ผลิตอิสระหลายพันราย กระทั่งสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้ผลิตเบียร์สดรายใหญ่ เพราะเหตุว่าบรรดาคอเบียร์สดหันมาดื่มเบียร์คราฟกันมากขึ้น

จากข้อมูลของ Brewers Associations แห่งประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า ในปี 2018 ยอดขายเบียร์สดดังในประเทศสหรัฐตกลงไป 1% แม้กระนั้นคราต์เบียร์กลับเพิ่มขึ้น 3.9% หรือคิดเป็นสัดส่วนโดยประมาณ 13% ของยอดจำหน่ายเบียร์สดทั้งผอง คิดเป็นค่ากว่า 27,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วก็ยังสามารถสร้างงานได้มากกว่า 5 แสนตำแหน่ง ระหว่างที่ตลาดในยุโรปก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 13%

สำหรับเบียร์คราฟไทย มีการราวกันว่ามีอยู่ 60-70 แบรนด์ในขณะนี้ โดยส่วนมากผลิตขายคุ้นเคยแบบไม่เปิดเผย เนื่องจากว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็แบรนด์ที่ขายในร้านรวงหรือห้องอาหารได้ ก็ถูกสร้างในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา เวียดนาม ประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น และก็บางประเทศในยุโรป

ล่าสุด ‘ศิวิไลซ์’ เบียร์สดไทยจากเครือมหานครได้สร้างชื่อเสียงระดับโลก ภายหลังจากเพิ่งจะได้รับรางวัลเหรียญเงินจากเวที ‘World Beer Awards 2020’ แต่จำเป็นต้องไปผลิตในประเทศเวียดนาม

ตราบใดที่ทุนผูกขาดรายใหญ่ยังมีความเกี่ยวข้องที่ดีกับผู้กุมอำนาจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกื้อหนุน ค้ำจุน ผลตอบแทนต่างตอบแทนมาตลอด ช่องทางสำหรับในการปลดล็อกเพื่อความทัดเทียมสำหรับในการแข่งการผลิตเบียร์และก็สุราทุกหมวดหมู่ ดูเหมือนมัวไม่น้อย
เบียร์คราฟ เชียงราย

จะเป็นไปได้หรือที่มูลค่าน้ำเมา 2 แสนกว่าล้านบาท จะกระจายไปสู่รายย่อยทั่วประเทศ คราฟเบียร์ เชียงราย ในประเทศที่ทุนผูกขาดกับผู้มีอำนาจเป็นโครงข่ายเดียวกัน

Report this page